ปูนกาว กาวซีเมนต์ จระเข้ทอง ราคาถูก สีเทา

คุณสมบัติสินค้า:

กาวซีเมนต์ ปูนกาว จระเข้เขียว

ขนาด 10 กก. สีเทา ขนาด 20 กก. สีเทา ขนาด 4 กก. สีเทา ขนาด 1 กก. สีเทา ขนาด 1 กก. สีขาว ซีเมนต์ขาว ขนาด 4 กก. สีขาว ซีเมนต์ขาว ขนาด 10 กก. สีขาว ซีเมนต์ขาว ขนาด 20 กก. สีขาว ซีเมนต์ขาว

Share

ราคาก่อน ภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT 7% 

กาวซีเมนต์ จระเข้ทอง สีเทา

  • ปูได้หลากหลายวัสดุกรุผิว ภายใน-ภายนอกอาคาร
  • ปูกระเบื้องขนาดใหญ่มากทุกชนิด พื้นและผนังภายใน-ภายนอกอาคาร
  • ปูหินอ่อน หินแกรนิต หินธรรมชาติ เรซิ่น กระเบื้องแก้ว พื้นและผนัง
  • ปูทับได้ทั้ง กระเบื้อง ไม้อัดโครงสร้าง ไฟเบอร์ซีเมนต์
  • แรงยึดเกาะสูงพิเศษ ทนต่อแรงสั่นสะเทือน

กาวซีเมนต์จระเข้ทอง มีผงลาเท็กซ์ที่เพิ่มประสิทธิภาพของกาวซีเมนต์ให้ดีขึ้น มีส่วนผสมของปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ทราย และเคมีผสมเพิ่มชนิดพิเศษอื่นๆ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติที่ให้การยึดเกาะสูง มีการยืดหยุ่นที่ดี ทนทานในทุกสภาพภูมิอากาศ เหมาะสำหรับใช้ปูภายนอกอาคารโดยเฉพาะ ใช้ปูกระเบื้องเซรามิกทุกชนิด ปูหินอ่อน ปูแกรนิต ปูโมเสกแก้ว กระเบื้องแก้ว และใช้ปูทับกระเบื้องเดิม โดยไม่ต้องสกัดของเก่า ทั้งพื้นและผนังภายใน รวมทั้งสามารถใช้ปูบนพื้นผิวไม้อัดโครงสร้าง แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์


การเตรียมพื้นผิว


พื้นผิวใหม่ : พื้นผิวที่ต้องการปูจะต้องแข็ง เรียบ ได้ระดับ แห้งและสะอาด ปราศจากฝุ่น น้ำมัน น้ำยาบ่มคอนกรีต สี เศษปูน สิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ และมีการดูดซึมน้ำปกติ หากพื้นผิวผนังปูนฉาบใหม่หรือปูนปรับระดับใหม่ ควรใช้เวลาบ่มตามมาตรฐาน 7 วันหรือ 168 ชั่วโมง ต่อความหนา 1 ซม.


พื้นผิวเดิม : ล้างทำความสะอาดพื้นผิวโดยใช้น้ำฉีด ขัดพื้นผิวให้สะอาด เพื่อขจัดคราบฝุ่น น้ำมัน น้ำยาบ่มคอนกรีต สี เศษปูน และสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ และกวาดน้ำที่ขังบนพื้นผิวให้หมดก่อนที่ใช้กาวซีเมนต์
กรณีปูทับกระเบื้องเดิม : ต้องตรวจสอบความสามารถในการยึดเกาะ ระหว่างกระเบื้องและผิวคอนกรีต หากความสามารถในการยึดเกาะต่ำจึงต้องสกัดกระเบื้องเดิมทิ้ง
 
อัตราส่วนผสม

  • ตวงกาวซีเมนต์ จระเข้ทอง 20 กก. (1 ถุง) ต่อ น้ำ 5.60 ลิตร
  • ตวงกาวซีเมนต์ จระเข้ทอง 2.7 ส่วน ต่อ น้ำ 1 ส่วน โดยปริมาตร

การผสม

  • เทปูนกาวซีเมนต์ลงในน้ำใช้เครื่องผสมรอบต่ำประมาณ 150 รอบต่อนาที (150 rpm) ช่วยในการผสมให้เข้ากัน
  • ทิ้งไว้เพื่อให้เคมีบ่มตัวประมาณ 15 นาที จึงกวนซ้ำอีกครั้งก่อนนำมาใช้งาน อย่าเติมน้ำหรือกาวซีเมนต์ลงไปเพิ่มหลังจากที่ทิ้งไว้จนเคมีบ่มตัวแล้ว

การใช้งาน

  • ใช้เกรียงหวีด้านเรียบปาดกาวซีเมนต์ลงบนพื้นหรือผนังที่ต้องการปูกระเบื้องให้ทั่ว และเพียงพอสำหรับกระเบื้องที่จะใช้ปูแต่ละครั้ง
  • ใช้ด้านหวีปาดกาวซีเมนต์ให้เป็นร่อง โดยจับเกรียงหวีให้ได้มุมประมาณ 60 องศา และครูดให้เป็นรอยทางในทิศทางแนวเดียวกับด้านสั้นของกระเบื้อง (ใช้เกรียงหวีให้เหมาะกับขนาดกระเบื้อง)
  • ใช้เกรียงหวีด้านเรียบปาดกาวซีเมนต์ไล้หลังกระเบื้อง เพื่อชดเชยความโก่ง หรือบิดตัวของกระเบื้องและให้มั่นใจว่าปูนกาวอยู่เต็มหลังกระเบื้อง ป้องกันการเกิดโพรงอากาศทำให้กระเบื้องที่ปูสามารถรับแรงกดอัดได้เต็มที่ ไม่แตก ล่อนในภายหลัง
  • นำกระเบื้องปูบนกาวซีเมนต์ สไลด์แผ่นกระเบื้องไปทางขวางในทิศทางตั้งฉากกับแนวของเกรียงหวีที่ครูด เคาะกระเบื้องให้ติดแน่นกับกาวซีเมนต์เต็มทั่วทั้งแผ่น
  • สามารถจัดกระเบื้องแต่ละแผ่นให้ตรงแนวตามต้องการภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิขณะทำงาน และไม่ควรจัดหรือเคาะกระเบื้องอีกเมื่อเลยเวลาดังกล่าว เมื่อกดกระเบื้องลงบนกาวซีเมนต์ ควรแน่ใจว่าหลังกระเบื้องสัมผัสกับกาวซีเมนต์เต็มทั่วทั้งแผ่น ซึ่งความหนาของกาวซีเมนต์ที่ปาดลงบบนพื้นผิวควรจะอยู่ระหว่าง 2-10 มม.


การบ่มและการยาแนวกระเบื้อง


หลังจากปูกระเบื้องเสร็จแล้ว ควรบ่มทิ้งไว้ประมาณ 24-48 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับอุณหภูมิแล้วจึงยาแนวกระเบื้อง เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพสูงสุด ควรเลือกกาวยาวแนวจระเข้ให้เหมาะสมกับใช้ตามลักษณะของร่องและลักษณะของสถานที่

ข้อเสนอแนะ

  • เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรยาแนวกระเบื้องหลังจากปูกระเบื้องไปแล้วไม่น้อยกว่า 48 ชั่วโมง
  • เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ ควรใช้กาวซีเมนต์จระเข้ ไล้หลังกระเบื้องให้ทั่วแผ่น

ข้อจำกัดในการใช้


สามารถใช้ปูบนพื้นผิวไม้อัดโครงสร้าง แผ่นซีเมนต์ไม้อัดต้องมีความหนาอย่างน้อย 19 มม. และมีการติดตั้งที่แข็งแรง ไม่โก่งงอ


**หากต้องการปูพื้นผิวของวัสดุที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางบริษัทฯ

ข้อควรระวัง

  • ผลิตภัณฑ์อาจทำให้เกิดผิวหนังระคายเคือง ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยต่างๆ เช่น ถุงมือ หน้ากากกันฝุ่น แว่นตา ฯลฯ
  • ในกรณีเข้าตาให้ล้างนัยน์ตาด้วยน้ำสะอาดหลายๆครั้งทันที และรีบปรึกษาแพทย์
  • ถ้าถูกหรือสัมผัสกับผิวหน้าให้ใช้น้ำและสบู่ล้างทำความสะอาด
  • ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก
  • ห้ามรับประทาน


การเก็บรักษา

  • ควรเก็บไว้ในที่ร่ม แห้ง ปราศจากความชื้น และมีอากาศถ่ายเท อุณหภูมิไม่สูงจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เสื่อม
  • อายุของผลิตภัณฑ์  1 ปีนับจากวันที่ผลิตในสภาพยังไม่เปิดถุงใช้




Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้