ประตูห้องครัว ข้อควรรู้ในการเลือกซื้อประตูห้องครัว

2779 จำนวนผู้เข้าชม |

ประตูห้องครัว ข้อควรรู้ในการเลือกซื้อประตูห้องครัว

ห้องครัว คือพื้นที่ที่มีความต้องการพิเศษหลายประการจากฟังก์ชันที่ต้องใช้งาน เพื่อสามารถใช้งานส่วนอื่นของบ้านได้อย่างมีความสุขไปพร้อมกับการได้ลิ้มรสอาหารอร่อยจากครัว ห้องสำหรับประกอบอาหาร จึงจำเป็นต้องมีการจัดการกลิ่นและการระบายอากาศ ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุด ก็คือการเลือกใช้บานประตูหน้าต่างให้เหมาะกับการใช้งานพร้อมกับการเติมความงามให้กับห้องครัว แต่ประตูห้องครัวก็มีให้เลือกหลายแบบ ควรทำความรู้จักกันให้ดีก่อนเลือกมาใช้งาน

ห้องครัวต้องเจอทั้งความร้อนและความชื้น จึงควรเลือกประตูห้องครัวที่ทนทาน ทนต่อแรงกระแทก ทำความสะอาดง่าย และเข้ากับสไตล์การตกแต่ง เพื่อให้ภาพรวมของบ้านออกมาสวยเป๊ะ น่าอยู่มากกว่าเดิม
วัสดุที่ใช้ทำประตูห้องครัวมีให้เลือกหลายประเภท ทั้งไม้ธรรมชาติ ไม้สังเคราะห์ ยูพีวีซี ไปจนถึงประตูกระจก จึงควรเลือกให้เข้ากับรูปแบบการใช้งานและการตกแต่งของแต่ละบ้าน เพื่อให้ได้ประตูครัวที่ตอบโจทย์ ใช้งานได้ยาวนาน คุ้มค่ากับการติดตั้งมากที่สุด

ขนาดมาตรฐานของประตูห้องครัว

          1. หากเป็นประตูบานเลื่อนแบบทางเดียวไม่แนะนำให้ทำน้อยกว่า 80 ซม. เครื่องใช้ในครัวมีขนาดค่อนข้างใหญ่ซึ่งไม่เอื้อต่อการประสานงานของพื้นที่

          2. ถ้าเลือกเป็นประตูบานเลื่อนสองทาง ความกว้างรวมของประตูสามารถเลือกได้จากช่วงสาม 140 ซม., 180 ซม. และ 200 ซม.

          3. ความกว้างมาตรฐานของประตูห้องครัว คือ ประมาณ 80 ซม. และข้อกำหนดบานประตูโดยทั่วไปคือ 67 ซม. ถึง 72 ซม.

วิธีการเลือกประตูห้องครัว

          1. ประตูห้องครัวต้องทนความร้อนความชื้น ประตูห้องครัวก็ควรจะมีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานต่อความร้อนและความชื้นด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันปัญหาประตูเสียหาย รั่วซึม ทำให้ต้องเปลี่ยนกันใหม่ทั้งบาน

          2. ประตูห้องครัวต้องทำความสะอาดง่าย ควรเลือกประตูที่ทำความสะอาดง่าย ไม่มีขั้นตอนบำรุงรักษาที่ยุ่งยาก เพียงใช้น้ำและน้ำยาทำความสะอาดทั่วไปเช็ดได้ตามปกติ และควรเลือกประตูห้องครัวที่มีพื้นผิวเรียบเนียน ทำให้คราบสกปรกเกาะติดได้ยาก จะช่วยลดโอกาสเกิดคราบฝังแน่นได้อีกทางหนึ่ง

          3. สไตล์การตกแต่งห้องครัว นอกจากการใช้งาน และการดูแลรักษาแล้ว บอกเลยว่าการตกแต่งก็เป็นอีกปัจจัยที่นำมาใช้เลือกประตูห้องครัวได้ ควรจะเลือกประตูที่เข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้าน โดยไม่ลืมคำนึงถึงการใช้งาน และขนาดพื้นที่ในบ้าน โดยรูปแบบประตูครัวที่นิยมใช้มี ดังนี้

ประตูบานเปิด ไม่ว่าห้องครัวสไตล์ไหน จะโมเดิร์น ย้อนยุค หรือร่วมสมัย ประตูบานเปิดก็ใช้ได้ทั้งนั้น เพราะเป็นแบบมาตรฐานที่เปิด - ปิด ด้วยการดึงและผลัก เลือกได้ว่าจะติดตั้งให้เปิดได้ 90 หรือ 180 องศา และยังเลือกวัสดุและรูปแบบได้ตามต้องการ
ประตูบานสวิง ผลักได้ทั้งสองทาง จะเข้าจากทางไหนก็ดันเปิดได้เลยตามสะดวก แถมยังช่วยเปลี่ยนบ้านให้โมเดิร์นทันสมัยกว่าเดิมด้วย
ประตูบานเลื่อน เหมาะสำหรับห้องครัวเล็ก บ้านมีพื้นที่น้อย ติดประตูบานเปิดหรือสวิงอาจจะทำให้พื้นที่น้อยลง ลองเปลี่ยนมาเป็นประตูบานเลื่อนที่ใช้พื้นที่ติดตั้งไม่เยอะ และถ้าใช้เป็นประตูกระจก ก็จะยิ่งดูโล่ง สบายตามากกว่าเดิม

ประตูที่เหมาะกับห้องครัวแบบไหนดีใช้งานได้นาน ทนร้อนทนชื้น

          1. ประตูไม้ เพราะสวยงาม มีสีสันลวดลายเป็นธรรมชาติ โดยส่วนใหญ่นิยมใช้ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สัก ไม้แดง ไม้โอ๊ค แต่ส่วนใหญ่จะนิยมใช้กับห้องครัวที่ไม่ได้ใช้งานหนักมากนัก เพราะไม่ค่อยทนต่อความชื้นและความร้อน

          2. ประตู WPC นิยมนำมาใช้เป็นประตูห้องครัว เพราะประตูครัวประเภทนี้ผลิตจากไม้บดผสมกับพลาสติก แล้วนำมาขึ้นรูปเป็นประตู ซึ่งคุณสมบัติเด่นของวัสดุประเภทนี้คือแข็งแรง ทนทานมาก ทนต่อความชื้นได้ดี ทนต่อความร้อน และไม่ลามไฟ รวมถึงกันปลวกและแมลงชนิดต่าง ๆ นอกจากนี้ก็ยังมีลวดลายสวยงามเหมือนกับไม้ธรรมชาติอีกด้วย

          3. ประตูไม้ HDF เป็นประตูครัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นวัสดุที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ หรือแผ่นใยไม้ นำมาผสมกับกาวสังเคราะห์ และอัดขึ้นรูปด้วยความดันและความร้อนสูง ทำให้เส้นใยและกาวเป็นเนื้อเดียวกัน นิยมใช้ภายในบ้าน เพราะปลอดภัยจากปลวกและแมลง และยังทนแรงกระแทกจากการใช้งานได้ดี

          4. ประตูยูพีวีซี (uPVC) เป็นประตูราคาประหยัด ใช้ได้เต็มที่ เน้นความคุ้มค่า แต่ได้ประตูที่มีขนาดมาตรฐาน แข็งแรงทนทาน สีสันคงทนตลอดการใช้งาน ที่สำคัญคือทนต่อความชื้น มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อน และป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก และมีปัญหารั่วซึมต่ำกว่าแบบอื่นด้วย

          5. ประตูกระจก เน้นแต่งบ้านให้โล่งโปร่ง มองวิวภายนอกได้เพลินๆ หรือมองเห็นคนในบ้านได้ง่ายๆ ประตูกระจก ทำความสะอาดง่าย ออกแบบได้หลากหลาย ทั้งประตูกระจกบานเปลือย บานเลื่อน ทนต่อความร้อนความชื้น แต่ควรจะเลือกใช้เป็นกระจกเทมเปอร์ กระจกลามิเนต หรือกระจกนิรภัย เพราะหากเกิดความเสียหายจะไม่กระจายตัวจนเป็นอันตรายต่อคนในบ้าน หากใช้ประตูห้องครัวแบบนี้ก็ยังช่วยเชื่อมต่อห้องต่างๆ ให้ดูต่อเนื่องกันมากขึ้นด้วย